2.หน่วยความจำหลัก (Main
Memory)
หน่วยความจำหลัก
จะเป็นวงจรหรือชิปที่ใช้ในการจดจำข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ
ที่อยู่ระหว่างการประมวลของคอมพิวเตอร์ บางครั้งอาจเรียกว่า หน่วยเก็บข้อมูลหลัก(primary storage) ก็ได้
โดยทั่วไปหน่วยความจำหลักจะบรรจุอยู่บนเมนบอร์ดหรือแผงวงจรหลัก
และหน่วยความจำบางประเภทก็ถูกออกแบบให้อยู่ในชิปซีพียูเลยก็มี
หน่วยความจำหลักที่นิยมใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1.หน่วยความจำหลักแบบอ่านได้อย่างเดียว
หรือ ROM (Read
Only Memory)
คือหน่วยความจำที่เก็บชุดคำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงานหรือชุดคำสั่งที่สำคัญๆของระบบคอมพิวเตอร์
โดยคำสั่งที่ใช้ในขณะเปิดเครื่องนั้นจะถูกเก็บไว้ในชิปที่ชื่อ ROM
BIOS (Basic
Input/Output )
เนื่องจากรอมมีคุณสมบัติในการเก็บข้อมูลไว้ได้ตลอดโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหล่อเลี้ยง(non-volatile) นั่นคือ
แม้จะปิดเครื่องไปแล้วเมื่อเปิดเครื่องใหม่ข้อมูลในรอมก็ยังอยู่เหมือนเดิม
แต่ข้อเสียของรอมคือหน่วความจำชนิดนี้จะไม่สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมชุดคำสั่งได้ในภายหลัง
รวมทั้งมีความเร็วในการทำงานช้ากว่าหน่วยความจำแบบแรม
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีรอมที่เป็นชิปพิเศษแบบต่างๆอีกคือ
PROM (Programmable
Read-Only Memory) เป็นหน่วยความจำแบบ ROM ที่สามรถบันทึกด้วยเครื่องบันทึกพิเศษได้หนึ่งครั้ง
จากนั้นจะลบหรือแก้ไขไม่ได้
EPROM (Erasable
PROM) เป็นหน่วยความจำ ROM ที่ใช้แสงอัลตร้าไวโอเลตในการเขียนข้อมูล สามรถนำออกจากคอมพิวเตอร์
ไปลบโดยใช้เครื่องมือพิเศษและบันทึกข้อมูลใหม่ได้
EEPROM (Electrically
Erasable PROM) จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดซึ่งรวมเอาข้อดีของรอมและแรมเข้าด้วยกัน
กล่าวคือจะเป็นชิปที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการหล่อเลี้ยง (non-volatile) และสามารถเขียน แก้ไข หรือลบข้อมูลที่เก็บไว้ได้ด้วยโปรแกรมพิเศษ
โดยไม่ต้องถอดออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์เลย
ทำให้เปรียบเสมือนกับหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่มีความเร็วสูง
อย่างไรก็ตามหน่วยความจำชนิดนี้จะมีข้อด้อยอยู่ 2
ประการเมื่อเทียบกับหน่วยเก็บข้อมูลสำรองนั่นคือราคาที่สูงและมีความจุข้อมูลไม่มากนัก
ตัวอย่างของหน่วยความจำแบบ EEPROM ที่รู้จักะกันคือ หน่วยความจำแบบ Flash ซึ่งนิยมนำมาใช้เก็บ BIOS ในเครื่องรุ่นใหม่ๆ
2.หน่วยความจำหลักแบบเข้าถึงโดยสุ่ม
หรือRAM
หมายถึงหน่วยความจำที่ไม่สามารถแก้ไขได้
คือทั้งอ่านและเขีนยได้หน่วยความจำชนิดนี้เป็นหน่วยความจำความเร็วสูงซึ่งเป็นที่เก็บโปรแกรมและข้อมูลในคอมพิวเตอร์
โดยปกติแล้วถ้าคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำมาก
ก็จะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น เพราะมีเนื้อที่สำหรับเก็บคำสั่งของโปรแกรมต่างๆ
ได้ทั้งหมด ไม่ต้องเรียกคำสั่งที่ใช้มาจากหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
ซึ่งจะทำให้การทำงานช้าลงอย่างมาก
แผงวงจรหลัก(main board)
ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยปกติจะถูกออกแบบมาให้สามารถเพิ่มชิปหน่วยความจำ (memory chip)
ได้โดยง่ายเนื่องจากถ้าผู้ใช้งานต้องทำงานกับโปรแกรมที่มีการคำนวณซับซ้อนหรือทำงานกับภาพกราฟิกส์
ก็อาจจำเป็นต้องทำการเพิ่มหน่วยความจำให้มากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุระพงษ์ อุสายพันธ์.การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอัลกอริทึ่ม. สกลนคร.ภาควิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร ;2548
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น